เตียงเด็กกับสุขภาพ เลือกแบบไหนให้ดีต่อพัฒนาการ
รู้จักกับ 5 วิธีการเลือกเตียงเด็กที่ดี เพื่อสุขภาพและการนอนหลับของบุตรหลาน
การนอนหลับเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย จิตใจ หรือสมอง รวมถึงสามารถสร้างความสมดุลให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างเหมาะสมด้วย มากไปกว่านั้น คือเมื่อเด็กได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว ร่างกายก็จะทำการหลั่งฮอร์โมนที่ดีและมีผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ๆ ได้อย่างสมดุล ส่งผลให้เด็กทุกคนเติบโตแข็งแรงตามวัย ฉลาด สุขภาพดี อารมณ์ดี และพร้อมเป็นเด็กที่น่ารักกับทุกคน ในทางกลับกันหากเด็กประสบปัญหานอนหลับไม่เพียงพอ หรือต้องทนนอนในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น เตียงใหญ่เกินไป เล็กเกินไป ไม่ถูกสุขลักษณะหรือไม่ปลอดภัย ก็อาจจะส่งผลกระทบด้านลบต่อพฤติกรรมและสุขภาพได้เช่นกัน ซึ่งผลลัพธ์ของการนอนหลับไม่เพียงพอนั้น อาจจะทำให้เด็กสุขภาพไม่แข็งแรง เติบโตช้า พัฒนาการช้า ภูมิต้านทานต่ำ หงุดหงิดง่าย และสมาธิสั้น เป็นต้น เพราะฉะนั้น เตียงที่ดีจึงเป็นรากฐานสำคัญของการเติบโตที่ถูกต้อง พ่อแม่ผู้ปกครองทุกคนจึงควรให้ความสำคัญกับการเลือกเตียงเป็นอย่างมาก และเพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถเลือกเตียงเด็กที่เหมาะสมกับบุตรหลานของตัวเองได้ง่ายขึ้น ในบทความนี้เลยจะมานำเสนอ 5 คุณสมบัติสำคัญที่เตียงเด็กควรมี เพื่อส่งเสริมสุขภาพและพัฒนาการผ่านการนอนหลับที่มีความสุขให้ทุกคน
แนะนำ 5 แนวทางเลือกซื้อเตียงเด็ก เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการผ่านการนอนหลับที่มีความสุข
1. เตียงเด็กที่ดีจะต้องเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก
ขึ้นชื่อว่าเด็กแน่นอนว่าย่อมต้องมาพร้อมกับความ ‘ซน’ แน่นอน และเชื่อว่าพ่อแม่ผู้ปกครองทุกคนต่างเข้าใจกันดีถึงการกระโดดโลดเต้นของลูก ๆ ที่ชอบวิ่งไล่จับกันบ้าง เล่นของเล่นกันบ้าง เล่นเลียนแบบเหล่าเจ้าหญิงและฮีโร่ประจำตัวกันบ้าง ซึ่งการเล่นกันที่ว่านี้ก็เกิดขึ้นทั่วทุกที่ รวมถึงบนเตียงเด็กด้วย ดังนั้นการเลือกเตียงเด็กจึงต้องคำนึงถึงสถานการณ์เหล่านี้รวมอยู่ด้วย โดยหนึ่งในจุดเสี่ยงหลัก ๆ คือการตกจากเตียง ดังนั้นเตียงเด็กจึงจำเป็นต้องมีราวกั้นสูงรอบด้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กตกจากเตียงได้ ทั้งนี้ความสูงของราวก็ต้องพิถีพิถันด้วย คือต้องไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป และระยะห่างระหว่างราวต้องไม่กว้างมากจนเด็กจะลอดหรืองัดผ่านช่องนั้นไปได้ นอกจากนี้ โครงสร้างเตียงเองก็ต้องมั่นคงแข็งแรง เพื่อรองรับน้ำหนักของเด็กได้อย่างปลอดภัย ไม่หักพังหรือเสียหายระหว่างใช้งาน พื้นผิวต้องเรียบเสมอกัน ไม่มีมุมแหลมคม ส่วนยื่นหรือสิ่งอันตรายที่เด็กจะได้รับบาดเจ็บจากการกระแทกหรือถูกงัดได้
2. เตียงเด็กจะต้องพร้อมรองรับสรีระร่างกายของเด็กอย่างนุ่มนวล
ความนุ่มและความแข็งของเตียงเด็กก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะที่นอนมีบทบาทสำคัญมากต่อการนอนหลับของเด็ก ดังนั้นความนุ่มนวลและความกระชับของที่นอนจะส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพการนอนหลับ ซึ่งจะนำไปสู่ผลกระทบด้านสุขภาพและพัฒนาการในระยะยาว หากที่นอนนุ่มเกินไปอาจจะทำให้กระดูกสันหลังเด็กคดงอ เนื่องจากร่างกายจมลงในที่นอนมากเกินไปได้ และมันอาจจะนำไปสู่ปัญหากระดูกสันหลังคดและปวดหลังในระยะยาวในอนาคต ในทางกลับกัน หากที่นอนแข็งเกินไป ร่างกายของเด็กจะไม่ได้รับการปรับสภาพพื้นผิวตามสรีรศาสตร์อย่างเหมาะสม อาจส่งผลให้เกิดแรงกดทับจุดสำคัญของร่างกาย เช่น ไหล่ สะโพก เข่า ทำให้เกิดอาการชาและปวดบริเวณต่าง ๆ ได้ ด้วยเหตุนี้ที่นอนที่เหมาะสมจึงควรมีความนุ่มนวลและความกระชับพอดี เพื่อช่วยให้ร่างกายของเด็กได้รับการปรับสภาพอย่างนุ่มนวล
3. เตียงเด็กควรมีขนาดพอเหมาะกับร่างกายของเด็ก ๆ
ขนาดของเตียงเด็กนั้นมีความสำคัญมาก เพราะจะต้องมีขนาดที่พอเหมาะกับรูปร่างและวัยของเด็ก หากเตียงมีขนาดไม่พอดีกับตัวเด็ก อาจส่งผลเสียต่อทั้งความปลอดภัยและคุณภาพการนอนหลับ เช่น นอนไม่สบาย เคลื่อนไหวลำบาก หรืออาจเสี่ยงต่อการหกล้มได้ง่าย โดยเมื่อเด็กยังเป็นทารก เตียงทารกควรมีขนาดกะทัดรัด แต่มีราวกั้นสูงเพื่อป้องกันอันตราย เมื่อเด็กโตขึ้นเป็นวัยเตาะแตะ ก็ควรปรับมาใช้เตียงขนาดกลางที่ใหญ่พอสำหรับให้เด็กนอนได้สะดวก แต่ก็มีพื้นที่พอควรเพื่อความปลอดภัย และเมื่อเด็กโตเต็มวัยแล้ว เตียงก็ควรมีขนาดมาตรฐานใหญ่พอสำหรับให้เด็กสามารถนอนหลับและเคลื่อนไหวได้อย่างเต็มที่ จะเห็นได้เลยว่าการเลือกขนาดเตียงให้พอดีกับวัยนั้นเป็นเรื่องสำคัญมาก
4. เตียงเด็กต้องทำมาจากวัสดุที่มีคุณภาพ ไร้สารเคมี ป้องกันการระคายเคือง
ผิวของเด็กนั้นบอบบางและแพ้ง่ายกว่าผู้ใหญ่มาก คุณภาพของวัสดุที่ใช้ผลิตเตียงเด็กจึงมีความสำคัญต่อสุขภาพของเด็กเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเด็กจะใช้เวลาอยู่บนเตียงและสัมผัสกับวัสดุเหล่านี้โดยตรงเป็นเวลานาน วัสดุคุณภาพต่ำหรือมีการปนเปื้อนของสารเคมีจึงอาจก่อให้เกิดผลกระทบทางลบได้ โดยเตียงเด็กที่ดีควรผลิตจากไม้ธรรมชาติคุณภาพดี เช่น ไม้ยางพารา หรือไม้สักแท้ ที่มีความปลอดภัย แข็งแรง ทนทาน มีกลิ่นหอมธรรมชาติ วัสดุไม้เหล่านี้ยังได้รับการรับรองว่าปลอดสารเคมีก่อมะเร็งหรือสารกันรา ในส่วนของที่นอนและผ้าปูเตียง ควรเลือกใช้วัสดุธรรมชาติเช่นกัน อาทิ ยางพารา ฟองน้ำคุณภาพดี หรือผ้าฝ้าย ที่ไม่มีการเคลือบสารเคมี สารกันน้ำ หรือสารอื่นๆ อีกทั้งยังระบายอากาศและซับเหงื่อได้ดี เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อผิวพรรณของเด็ก ๆ เป็นต้น
5. เตียงเด็กควรดูแลรักษาทำความสะอาดง่าย
การดูแลรักษาความสะอาดง่ายก็เป็นเรื่องสำคัญของเตียงเด็ก เพราะเด็กนั้นมักจะเล่นอะไรแบบไม่ระวัง รวมถึงอาจจะมีการฉี่รดที่นอน หรืออาจจะเป็นตัวผู้ปกครองเองที่เผลอทำเลอะตอนเปลี่ยนผ้าอ้อมต่าง ๆ การเลือกเตียงที่เคลื่อนย้ายง่าย ทำความสะอาดง่าย และดูแลได้ง่ายไว้ก่อนย่อมดีที่สุด
ทั้งหมดนี้คือ 5 แนวทางเลือกซื้อเตียงเด็ก เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการผ่านการนอนหลับที่มีความสุข ที่ทุกคนสามารถนำไปสังเกตก่อนเลือกซื้อกันได้ง่าย ๆ หรือถ้าใครอยากออกแบบเตียงเด็กด้วยตัวเองให้ตรงใจ การสั่งผลิตเตียงเด็กเองจากโรงงานระดับมืออาชีพโดยตรงก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย ซึ่งถ้าใครกำลังมองหาโรงงานผลิตเตียงเด็กที่ว่านั้นอยู่ DEEROOM (ดีรูม) ของพวกเราก็พร้อมให้บริการ โดยเราคือโรงงานผู้ผลิตโดยตรงและจัดจำหน่ายเตียงนอน แถวบางขุนเทียน ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและนวัตกรรมใหม่ ๆ พร้อมกับรูปแบบและดีไซน์สวยงาม เพื่อรองรับสำหรับการผลิตเตียงนอนและที่นอนที่มีคุณภาพได้มาตรฐานมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ให้กับลูกค้าในหลาย ๆ กลุ่ม อีกทั้งยังมีบริการหลังการขายสุดประทับใจ คอยช่วยเหลือลูกค้าทุกคนตลอดการรับประกัน
